ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ในแต่ละวัน ต้องแบกรับอาหารที่เราบริโภคเข้าไปมากมาย สารพัดรูปแบบ ร่างกายก็ย่อยหมดบ้างไม่หมดบ้าง ทิ้งคราบสกปรกเหลือไว้หมักหมม ทั้งในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ทำให้ถ่ายอุจจาระ มีกลิ่นเหม็นถึงเหม็นมาก สาเหตุเพราะทานยาปฎิชีวนะ และอมลูกอมชนิดผสมยาฆ่าเชื้อมากเกินไป รวมถึงการทานขมิ้นแคปซูล เนื่องจากในขมิ้นแคปซูลมีสารที่เรียกว่าเคอคิวมิน ซึ่งมีลักษณะเหมือนแว็ก ไปเคลือบ ผนังลำไส้ ทำลายที่อยู่ของโปรไบโอติก ทำให้กลุ่มจุลินทรีที่ช่วยร่างกายกำจัดของเสียและสิ่งสกปรกภายในลำไส้ถูกทำลายจนหมดสิ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการทำงานของท่อต่างๆภายในร่างกายนั้น มีการทำงานคล้ายคลึงกับท่อน้ำ ที่เมื่อใช้ไปนานๆก็จะมีการสะสมของคราบสกปรกต่างๆ ทำให้การไหลของน้ำในท่อไม่สะดวกจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดโดยการลอกท่อ ระบบท่อในร่างกายก็เช่นเดียวกันเมื่อใช้งานไปนานๆ ก็จะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกเช่นใน ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ท่อไตเป็นต้น
ยกตัวอย่าง ในลำไส้เล็ก เมื่อส่องขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่า มีหนวดเล็กๆ คล้ายหนวดปลาหมึกเต็มไปหมด ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวดูดสารอาหารเหมือนท่อปากแตร เพื่อดูดของเหลวหรือสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย เมื่อท่อเหล่านี้ตันก็จะมีผลต่อการดูดซึมสารอาหารของร่างกายทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เต็มที่เท่าที่ควร
มีกลุ่มจุลชีพโปรไบโอติกบางชนิด ที่เค้าคือนักทำความสะอาดไปที่ไหนก็จะไปทำความสะอาดที่นั่น ของเสียเหล่านี้คือของหมักหมมนะครับและเป็นอาหารอันโอชะของจุลินทรีเหล่านี้ จุดหลักที่จุลชีพในกลุ่มนี้เข้าไปทำงานคือ กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ จากนั้นจะเข้าไปในท่อไต จุลชีพเหล่านี้จะเข้าไปทำความสะอาดท่อต่างๆ ในร่างกาย ทำให้การไหลผ่านของเหลวในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ การดูดซึมอาหารทำได้ดี การทำงานของท่อไตเป็นปกติ ป้องกันไม่ให้เกิดโรคไต โรคลำไส้โป่งพอง ลำไส้แปรปรวน อาหารไม่ย่อย เป็นการทำงานแบบเบ็ดเสร็จกับระบบท่อ
ดังนั้น ร่างกายจึงมีความจำเป็นในการทำความสะอาดระบบท่อเหล่านี้ ซึ่งมักจะเรียกกันสั้นๆว่า “ดีท็อกซ์” ปัจจุบันมีการสวนทวารนั้นเป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก ลำไส้ของคนเรามีความยาวเท่ากับความสูงของตึก 4 ชั้น และมีผิวสัมผัสเท่ากับพื้นที่สนามเทนนิส 2 สนาม การดีท็อกซ์สวนทวาร จึงสามารถเข้าไปได้แค่ลำไส้ตรงส่วนปลายที่ติดกับทวารหนักเท่านั้น มิหนำซ้ำยังไปกวาดจุลินทรีที่มีประโยชน์ในบริเวณนั้นออกมาด้วย ถือว่าให้โทษมากกว่าคุณ ที่สำคัญสารเคมีจากยาที่ใช้ดีท็อกซ์จะไปหมักหมมที่ตับ ทำให้เกิดตับพิการ ผลที่เกิดขึ้นอย่างแรกเลยตับก็จะสร้างผังผืดไปล้อม เมื่อมีผังผืดในตับ ก็จะมีไขมันไปพอกที่ตับตามมานั่นเองครับ สรุปได้ว่า การดีท็อกโดยทั่วไปมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้ครับ
1. เสี่ยงต่อภาวะลำไส้ ตอบสนองช้า
2. การบีบตัวของลำไส้ถดถอย
3. ลำไส้ทะลุ
4. เกิดผังผืดและไขมันพอกตับ
5. ติดเชื้อถึงเสียชีวิต ได้
มาใช้นักทำความสะอาดตัวจิ๋วแบบนี้ช่วยเราทำความสะอาดดีกว่าครับ เพราะนอกจากจะทำความสะอาด ได้สะอาดเนื่องจากเป็นงานประจำของเขาแล้ว ยังช่วยให้เราลดจากการเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วยนะครับ
ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ในแต่ละวัน ต้องแบกรับอาหารที่เราบริโภคเข้าไปมากมาย สารพัดรูปแบบ ร่างกายก็ย่อยหมดบ้างไม่หมดบ้าง ทิ้งคราบสกปรกเหลือไว้หมักหมม ทั้งในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ทำให้ถ่ายอุจจาระ มีกลิ่นเหม็นถึงเหม็นมาก สาเหตุเพราะทานยาปฎิชีวนะ และอมลูกอมชนิดผสมยาฆ่าเชื้อมากเกินไป รวมถึงการทานขมิ้นแคปซูล เนื่องจากในขมิ้นแคปซูลมีสารที่เรียกว่าเคอคิวมิน ซึ่งมีลักษณะเหมือนแว็ก ไปเคลือบ ผนังลำไส้ ทำลายที่อยู่ของโปรไบโอติก ทำให้กลุ่มจุลินทรีที่ช่วยร่างกายกำจัดของเสียและสิ่งสกปรกภายในลำไส้ถูกทำลายจนหมดสิ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการทำงานของท่อต่างๆภายในร่างกายนั้น มีการทำงานคล้ายคลึงกับท่อน้ำ ที่เมื่อใช้ไปนานๆก็จะมีการสะสมของคราบสกปรกต่างๆ ทำให้การไหลของน้ำในท่อไม่สะดวกจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดโดยการลอกท่อ ระบบท่อในร่างกายก็เช่นเดียวกันเมื่อใช้งานไปนานๆ ก็จะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกเช่นใน ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ท่อไตเป็นต้น
ยกตัวอย่าง ในลำไส้เล็ก เมื่อส่องขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่า มีหนวดเล็กๆ คล้ายหนวดปลาหมึกเต็มไปหมด ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวดูดสารอาหารเหมือนท่อปากแตร เพื่อดูดของเหลวหรือสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย เมื่อท่อเหล่านี้ตันก็จะมีผลต่อการดูดซึมสารอาหารของร่างกายทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เต็มที่เท่าที่ควร
มีกลุ่มจุลชีพโปรไบโอติกบางชนิด ที่เค้าคือนักทำความสะอาดไปที่ไหนก็จะไปทำความสะอาดที่นั่น ของเสียเหล่านี้คือของหมักหมมนะครับและเป็นอาหารอันโอชะของจุลินทรีเหล่านี้ จุดหลักที่จุลชีพในกลุ่มนี้เข้าไปทำงานคือ กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ จากนั้นจะเข้าไปในท่อไต จุลชีพเหล่านี้จะเข้าไปทำความสะอาดท่อต่างๆ ในร่างกาย ทำให้การไหลผ่านของเหลวในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ การดูดซึมอาหารทำได้ดี การทำงานของท่อไตเป็นปกติ ป้องกันไม่ให้เกิดโรคไต โรคลำไส้โป่งพอง ลำไส้แปรปรวน อาหารไม่ย่อย เป็นการทำงานแบบเบ็ดเสร็จกับระบบท่อ
ดังนั้น ร่างกายจึงมีความจำเป็นในการทำความสะอาดระบบท่อเหล่านี้ ซึ่งมักจะเรียกกันสั้นๆว่า “ดีท็อกซ์” ปัจจุบันมีการสวนทวารนั้นเป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก ลำไส้ของคนเรามีความยาวเท่ากับความสูงของตึก 4 ชั้น และมีผิวสัมผัสเท่ากับพื้นที่สนามเทนนิส 2 สนาม การดีท็อกซ์สวนทวาร จึงสามารถเข้าไปได้แค่ลำไส้ตรงส่วนปลายที่ติดกับทวารหนักเท่านั้น มิหนำซ้ำยังไปกวาดจุลินทรีที่มีประโยชน์ในบริเวณนั้นออกมาด้วย ถือว่าให้โทษมากกว่าคุณ ที่สำคัญสารเคมีจากยาที่ใช้ดีท็อกซ์จะไปหมักหมมที่ตับ ทำให้เกิดตับพิการ ผลที่เกิดขึ้นอย่างแรกเลยตับก็จะสร้างผังผืดไปล้อม เมื่อมีผังผืดในตับ ก็จะมีไขมันไปพอกที่ตับตามมานั่นเองครับ สรุปได้ว่า การดีท็อกโดยทั่วไปมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้ครับ
1. เสี่ยงต่อภาวะลำไส้ ตอบสนองช้า
2. การบีบตัวของลำไส้ถดถอย
3. ลำไส้ทะลุ
4. เกิดผังผืดและไขมันพอกตับ
5. ติดเชื้อถึงเสียชีวิต ได้
มาใช้นักทำความสะอาดตัวจิ๋วแบบนี้ช่วยเราทำความสะอาดดีกว่าครับ เพราะนอกจากจะทำความสะอาด ได้สะอาดเนื่องจากเป็นงานประจำของเขาแล้ว ยังช่วยให้เราลดจากการเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วยนะครับ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/ProbioticByProLife/หรือสั่งซื้อสินค้าโดยตรงได้ที่
Line ID; @ovp0980m
