โรคหนังแข็ง (Scleroderma) เป็นโรคที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นหู หรือบางคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย บางคนอาจเคยเห็นผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ทางรายการโทรทัศน์ เพราะคนเห็นว่าเป็นโรคแปลกที่ไม่ได้พบเห็นมากนัก โรคหนังแข็ง มีชื่อทางการแพทย์ว่า “สเคลอโรเดอร์มา(Scleroderma)” เป็นชื่อที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คำว่า “สกีรอส (Skleros)” หรือ “สเคลอรอส (Sclerose)” แปลว่า “แข็ง” ส่วนคำว่า “เดอร์เมีย (Dermia)” หรือ “เดอร์มา (Derma)” นั้นแปลว่า “ผิวหนัง” คำว่าสเคลอโรเดอร์มา จึงแปลว่า หนังแข็ง ซึ่งเป็นอาการเด่นของโรคนี้ สาเหตุที่ทำให้ผิวหนังแข็งกว่าปกติ เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของเซลล์พังผืดที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast)
เซลล์พังผืด/ไฟโบรบลาสต์ เป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างไยคอลลาเจน (Collagen fiber) ที่ช่วยพยุงเนื้อเยื่อร่างกายให้ทรงรูป และมีความยืดหยุ่น (ตำแหน่งที่พวกเราคุ้นเคย คือ ไยคอล ลาเจนใต้ผิวหนัง ที่ทำให้ผิวหนังตึงไม่เหี่ยวย่น และมีความยืดหยุ่น) เมื่อเนื้อเยื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือแตกแยกออกจากกัน เซลล์ไฟโบรบลาสต์จะเร่งการผลิตไยคอลลาเจนออกมาซ่อมแซมประสานเนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน ตำแหน่งที่มีไยคอลลาเจนอยู่เป็นจำนวนมาก จะมีลักษณะนูนแข็งอยู่ชั่วคราว (เช่นแผลเป็นที่ผิวหนังระยะแรกๆ) เมื่อแผลหายสนิทเซลล์ไฟโบรบลาสต์จะลดอัตราการสร้างไยคอลลาเจนลง ปล่อยให้กระบวนการอื่นออกมา ทำหน้าที่ตบแต่งแผล เป็นให้กลับมามีสภาพคล้ายเดิมมากที่สุด นั่นหมายความว่าการทำหน้าที่ของเซลล์ไฟโบร บลาสต์ ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ มีการสร้างพอดีในภาวะปกติ หรือเพิ่มขึ้นชั่วคราว เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยือที่ได้รับบาดเจ็บ การทำงานที่น้อยไปจะทำให้เนื้อเยื่อไม่คงรูป เช่นการเหี่ยวย่นของผิวหนัง หรือถ้ามากเกินไปจะทำเกิดแผลเป็นที่นูนแข็งผิดปกติ เช่น แผลเป็นคีลอยด์ (Keloid/แผลเป็นนูน)
อนึ่ง โรคหนังแข็งนั้น เกิดจากเซลล์ไฟโบรบลาสต์ทำงานผิดปกติเป็นบริเวณกว้าง โดยที่เนื้อเยื่อร่างกายไม่ได้รับการบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำให้มีการสร้างใยคอลลาเจนออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่มีขีดจำกัด และเข้าไปแทรกอยู่ใต้ผิวหนังจำนวนมาก จนทำให้ผิวหนัง บวม ตึง และแข็ง เป็นบริเวณกว้าง คล้ายผิวของหุ่นขี้ผึ้งที่ตึงแข็งจนหยิบไม่ขึ้น และขาดความยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ไม่ได้มีเฉพาะที่ผิวหนัง แต่จะแทรกอยู่ตามเนื้อเยื่อร่างกายทุกชนิด โรคนี้จึงส่งผลกระทบไปยังเนื้อเยื่อของอวัยวะในระบบอื่นๆได้ (เช่น ระบบทาง เดินอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือด) โดยเนื้อเยื่อที่สำคัญคือ ที่หลอดเลือดแดงต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ด้วยเหตุที่โรคนี้ จึงทำให้เกิดพยาธิสภาพพร้อมกันได้หลายระบบ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ซีสเต็มมิก-สเคลอโรซีส (Systemic sclerosis)” หมายถึงโรคที่ทำให้เกิดการแข็งได้ทั่วร่างกาย ที่ทางการแพทย์เรามักจะเขียนย่อๆว่า “โรคเอส-เอส-ซี (SSc)”
สาเหตุ
โรคหนังแข็ง เป็นโรคจัดรวมไว้ในกลุ่มโรคระบบเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue diseases) หรือโรคออโตอิมมูน(Autoimmune disease) คนทั่วไปอาจคุ้นกันในชื่อของโรคแพ้ภูมิตนเองมากกว่า เป็นโรคในกลุ่มเดียวกันกับโรคเอส แอล อี โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือโรค โจเกรน/กลุ่มอาการโจเกรน นั่นเอง
ความผิดปกติในการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ เป็นผลพวงมาจากความผิดปกติในการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค ที่ทำให้เกิดการอักเสบเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง โดยยังไม่ทราบว่า อะไรเป็นต้นเหตุที่ชักนำให้เกิดความผิดปกติดังกล่าว แต่เชื่อว่าน่าจะเกี่ยว ข้องกับลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับปัจจัยแวดล้อมบางอย่าง เช่น การติดเชื้อ หรือการสัมผัสกับยาและสารเคมีบางชนิด
คำแนะนำ: รับประทานFOS 2 + FOS 10 ยีสต์แดง + Maximumlife Herbal Drink
FOS 2 = เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันไมโครไบโอต้าช่วยสื่อสารกับระบบ Auto Immune ไม่ให้ทำอันตรายหรือต่อต้านเนื่อเยื่อของร่างกาย
FOS 10 ยีสต์แดง = ช่วยดูแลระบบจัดการไขมันในร่างกาย บำรุงระบบเลือดและหลอดเลือด
Maximumlife Herbal Drink = สมดุลฮอร์โมนในร่างกาย บำรุงประสาท
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/ProbioticByProLife/
หรือสั่งซื้อสินค้าโดยตรงได้ที่
https://www.facebook.com/ProbioticByProLife/
หรือสั่งซื้อสินค้าโดยตรงได้ที่
Line ID; @ovp0980m